อุปสรรคในการเรียนภาษาอังกฤษของเด็กไทย

เชื่อว่าหลายคนคงเจอปัญหาเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นผลสักที ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนได้เรียนภาษาอังกฤษกันมาตั้งแต่เด็ก ในหลักสูตรการเรียนวิชาภาคบังคับ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนก็ยังไม่สูงมากนัก ซึ่งพ่อแม่ ผู้ปกครองอาจจะเกิดข้อสงสัยว่าทำไมภาษาอังกฤษของลูกยังไม่ดีขึ้น แม้จะเรียนมาเป็นระยะเวลานานหลายปีแล้ว ในวันนี้เราจะพามาดูว่าอุปสรรคที่แท้จริงที่มาขัดขวางการเรียนภาษาอังกฤษของเด็กไทยคืออะไรกันแน่

ไม่มีเป้าหมายในการเรียนที่ชัดเจน

แน่นอนว่าทุกคนรู้ดีว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญ แต่ก็อาจจะไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการเรียนภาษาอังกฤษไปเพื่ออะไร? การมีทักษะความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง? การจะเรียนภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จ จะต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น บางคนเลือกที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อทำคะแนนสอบให้ดีขึ้น บางคนเลือกที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบในระดับชั้นต่อไป บางคนเลือกที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อสอบเข้าทำงานหรือเรียนต่อต่างประเทศ เป็นต้น การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจในการเรียนได้มากยิ่งขึ้น

พื้นฐานภาษาไม่แน่นพอ

ส่วนใหญ่แล้วจะมีการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก หลายคนอาจจะรู้สึกว่าตัวเองมีพื้นฐานภาษามากพอแล้ว เลยวางแผนการเรียนแบบข้ามระดับไป ซึ่งพื้นฐานภาษาเป็นสิ่งสำคัญมาก และการเริ่มเรียนตั้งแต่พื้นฐานก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะทักษะความรู้บางอย่าง หากไม่ได้มีการใช้บ่อย ๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่อาจจะหลงลืมไปได้ ดังนั้น ก่อนลงคอร์สเรียน ควรปรึกษากับเจ้าหน้าที่หรือครูผู้สอนเพื่อทำการวางแผนการเรียนให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

มีคลังศัพท์น้อย 

คำศัพท์เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษให้สำเร็จ สังเกตได้จากหลาย ๆ ครั้ง เวลาที่เราจะต้องพูดคุยหรือสื่อสารกับชาวต่างชาติ เรื่องของไวยากรณ์อาจจะไม่มีปัญหาเท่ากับการนึกคำศัพท์ให้ออก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องยากและไม่มีทางที่เราจะสามารถจำคำศัพท์ทั้งหมดได้ แต่การท่องศัพท์เป็นประจำ โดยเฉพาะคำศัพท์ทั่วไปที่สามารถเจอได้ในชีวิตประจำวัน ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้

การเรียนการสอนที่น่าเบื่อ

ต้องยอมรับว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนไทยที่เน้นการสอนแกรมม่า ไวยากรณ์ โดยการบรรยายหน้าชั้นเรียน หรือมีการจดตามเฉย ๆ ทำให้เด็กส่วนใหญ่รู้สึกเบื่อและไม่มีความสนใจในการเรียนภาษา เชื่อว่าหากได้เรียนในบรรยากาศที่ให้เด็กได้มีส่วนร่วม หรือมีการทำกิจกรรมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษระหว่างการเรียน จะทำให้เด็กมีความสนใจมากขึ้นได้ อีกทั้งในยุคปัจจุบันที่มีโรคระบาดโควิด ทำให้เกิดการเรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์มากขึ้น ทำให้ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมห้องเรียนแบบเมื่อก่อน รวมไปถึงคุณครูผู้สอนไม่มีทักษะการสอนที่ทำให้เด็กเกิดความสนุกในการเรียน

ไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษ

ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ในอดีตจะเห็นว่ามีการตำหนิ หรือต่อว่าเด็กที่พูดภาษาอังกฤษผิด หรือออกเสียงไม่ถูกต้อง การกระทำต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความมั่นใจของเด็กที่จะใช้ภาษาอังกฤศ เพราะกลัวว่าจะถูกต่อว่า หรือถูกล้อเลียนจากคนไทยด้วยกัน ซึ่งหากลองสังเกตดูจากการเรียนภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติหรือเจ้าของภาษา จะพบว่าเด็กจะรู้สึกสบายใจที่จะพูดหรือใช้ภาษามากกว่า เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะถูกต่อว่านั่นเอง